การ เลี้ยงกบคืออีกหนึ่งอาชีพที่ชาวบ้านหลายคนทำกันมาอย่างยาวนานแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าการเลี้ยงกบนี้หากศึกษาข้อมูลดีๆสามารถสร้างรายได้ถ...
การเลี้ยงกบคืออีกหนึ่งอาชีพที่ชาวบ้านหลายคนทำกันมาอย่างยาวนานแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าการเลี้ยงกบนี้หากศึกษาข้อมูลดีๆสามารถสร้างรายได้ถึงครึ่งแสนบาทเลยทีเดียว
การเลี้ยงกบควรเลือกอยู่ไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยที่นักเพื่อความสะดวกสบาย และในการป้องกันศัตรูเช่นนกหนูหมาแมว ควรให้อยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนถ่ายน้ำหากเป็นไปได้ควรอยู่ให้ห่างจากถนนเพื่อป้องกันเสียงรบกวนเนื่องจากกบต้องการพักผ่อนจะได้เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
พันธุ์กบส่วนใหญ่ที่นำมาเลี้ยงพันธุ์กบที่นิยมนำมาเลี้ยงมี 2 สายพันธ์ คือกบอเมริกันบลูฟอก และกบนา
สำหรับผู้เริ่มต้นในการเลี้ยงกบนาจะเหมาะกว่ากบนาใช้ระยะเวลาเพียง 4-5 เดือนกบก็โตถึงขนาด 4-5 ตัวต่อกิโลกรัมเป็นกบที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเป็นที่นิยมบริโภคมากกว่าพันธุ์อื่นลักษณะของกบนาตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมียกับตัวผู้จะมีกล่องเสียงอยู่ใต้คางใช้สำหรับส่งเสียงโดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์กบตัวเมียนั้นส่งเสียงร้องได้เหมือนกันแต่ว่าจะเบากว่าตัวผู้มากในช่วงฤดูผสมพันธุ์กบตัวผู้จะส่งเสียงดังและกล่องเสียงจะพองโตส่วนตัวเมียมีไข่แก่จะสังเกตเห็นบริเวณท้องบวมและใหญ่กว่าปกติ
การเพาะพันธุ์กบ
การเตรียมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 1 หาตามแหล่งน้ำธรรมชาติ 2 ซื้อจากแหล่งเพาะเลี้ยงกบ สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำให้หาแหล่ง น้ำธรรมชาติ หรือแหล่งเพาะเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบก็ได้เนื่องจากหาได้ง่ายและมีความทนต่อโรคสูงแถมยังลงทุนด้วยน้อยกว่า
การคัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ
ลักษณะของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบควรเลือกตัวที่ท้องขยายใหญ่และมีปุ่มสักข้างลำตัวทั้งสองข้างเมื่อใช้นิ้วสัมผัสดูแล้วจะรู้สึกว่าแม่พันธุ์ตัวที่พร้อมมากจะมีปุ่มสากมากส่วนพ่อพันธุ์นั้นเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์กบตัวผู้จัดส่งเสียงร้องดัง และกล่องเสียงที่ใต้คางก็จะพองโตลำตัวของพ่อพันธุ์จะมีสีเหลืองเข้มเมื่อเราใช้นิ้วสอดไปที่ใต้ท้องมันจะใช้ขาน่ากอดรัดนิ้วเราไว้แน่น
การเตรียมบ่อเพาะพันธุ์กบ
ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาดบ่อด้วยด่างทับทิมเข้มข้น 10 pm แช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจากนั้นจึงล้างทำความสะอาดด่างทับทิมออกให้หมด
ขั้นตอนที่ 2 เติมน้ำลงไปในบ่อประมาณ 5-7 เซนติเมตรไม่ควรให้ระดับน้ำสูงเกินไปกว่านี้เพราะกบตัวผู้กับตัวเมีย ขณะที่กบตัวเมียเบ่งไข่ออกมาจากท้องจะต้องใช้ขาหลังยันต์ที่พื้นถ้านำลึกมากเกินไปขาหลังจะยันไม่ถึงพื้นและจะลอยน้ำทำให้ไม่มีพลัง จึงเป็นเหตุให้ไข่ออกมาได้ไม่มาก
ขั้นตอนที่ 3 เตรียมฝนเทียมโดยทั่วไปจะ จับคู่ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝนแต่เราจะเลียนแบบธรรมชาติโดยใช้ท่อน้ำ PVC ขนาด นิ้วครึ่ง จากนั้นจึงนำมาเจาะรูตามท่อน้ำเข้าไป และให้น้ำไหลออกมาคล้ายกับฝนตก นำท่อพ่นนี้ไปพาดไว้บนปากบ่อหรือหลังคาคลุมบ่อและเปิดไว้
เวลาที่จะทำการผสมพันธุ์กบ
การผสมพันธุ์กบ ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงไปในบ่อที่เราเตรียมไว้โดยให้มีตัวผู้ต่อตัวเมียจำนวน 1 ต่อ 1 ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร และต้องปล่อยให้กบผสมพันธุ์กันในตอนเย็นเมื่อปล่อยกบลงไปแล้วจึงเปิดฝนเทียมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้กบผสมพันธุ์กันจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 นถึง 22.00 น
ภายในบ่อต้องมีท่อให้น้ำล้นออกมาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินไปกลัวจะจับคู่ผสมพันธุ์และปล่อยไข่ตามเช้าตอนเช้ามืด หลังจากที่กบปล่อยไข่แล้วในตอนเช้าจึงค่อยๆลดระดับน้ำลงและใช้สวิงผ้านิ่มๆ รองรับไข่ที่ไหลออกมาตามน้ำ ในขณะที่น้ำรถต้องคอยใช้สายยางฉีดน้ำเบาๆไข่ขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไข่แตก ต้องทำในตอนเช้า
ขณะที่ไข่กบยังมีวุ้นเหนียวหุ้มอยู่นำขายที่รวบรวมได้ใส่ลงไปในบ่ออนุบาล
การเปลี่ยนถ่ายน้ำ
1 เมื่อลูกอ๊อดฟักออกเป็นตัวจะต้องเพิ่มระดับน้ำในบ่อขึ้นเรื่อยๆจนอยู่ในระดับความลึกประมาณ 30 cm
2 ลูกอ๊อดอายุ 4 วันจะต้องทำการย้ายบ่อครั้งที่ 1 และระดับน้ำที่ใช้ควรอยู่ที่ระดับ 30 เซนติเมตร
3 เปลี่ยนถ่ายน้ำน้ำทุกๆวันวันละประมาณ 50 cm
4 ทุกๆ 3-4 วันทำการย้ายบ่อพร้อมกับคัดลูกอ๊อดออก
5 เมื่อลูกอ๊อดเริ่มเข้า ที่ขาหน้าของลูกอ๊อดจะเริ่มงอกต้องลดระดับน้ำในบ่อลงมาอยู่ที่ความลึกประมาณ 5-10 เซนติเมตร แล้วต้องใส่วัสดุที่ใช้สำหรับเกาะให้กับลูกอ๊อดด้วยอาทิเช่นทางมะพร้าวหรือแผ่นโฟม
การดูแลและเลี้ยงกบตัวเต็มวัย
ให้อาหารกบวันละ 2 ครั้งในช่วงเวลา 07.00 นถึง 17.00 นโดยปริมาณอาหารเท่ากับ 10% ของน้ำหนักตัวกบเช่นกบในบ่อมีประมาณ 100 กิโลกรัมควรให้อาหาร 10 กิโลกรัม อาหารกบมีอยู่หลากหลายชนิด
เลือกให้แบบใดก็ได้เช่นปลายข้าว 1 ส่วนผักบุ้ง 2 ส่วนต้มรวมกันกับเนื้อปลาหรือเนื้อหอยโข่ง หรือเนื้อปูก็ได้
ต้นทุนในการเลี้ยงกบนา
การเลี้ยงกบนามีการใช้น้ำไม่มากและใช้พื้นที่น้อยเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและบ่อซีเมนต์ขนาด 6-12 ตารางเมตรในเวียงบ่มีจำนวนกบประมาณ 400 ถึง 800 ตัวใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 3-4 เดือนสามารถจับขายได้คิดแล้วต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณ 25 ถึง 30 บาทต่อกิโลกรัม
รายได้จากการเลี้ยงกบราคากบแตกต่างกันตามพื้นที่และขนาดของตัวกบในบางพื้นที่กบที่ทำสำเร็จพร้อมนำไปประกอบอาหาร ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 120 บาทถึง 125 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าเป็นกบที่ยังไม่ได้ทำจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท
และนี่ก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างรายได้หลักครึ่งแสนบาทให้กับเกษตรกรไทยได้อย่างแน่นอนเพราะว่ามีคนเคยทำสำเร็จมาแล้วหากเพื่อนๆสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถคอมเม้นบอก Admin ได้เลยนะครับจะรีบหาข้อมูลมาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน